บ้านทรุดต้องซ่อมอย่างไร ใช้งบประมาณเท่าไร?
ปัญหาใหญ่ของคนมีบ้านหนึ่งในนั้นก็คงหนีไม่พ้น “บ้านทรุด” เพราะยิ่งนานวันเข้าปัญหานี้ที่ไม่ได้รับการแก้ไขก็จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นมา ไม่เพียงเฉพาะบ้านที่เกิดจากการต่อเติมเท่านั้น บางหลังไม่ได้ต่อเติมอะไรแต่ก็เกิดการทรุดตัว แตกร้าวขึ้นมาได้เช่นกันค่ะ ปัญหาบ้านทรุดตัวนั้นต้องบอกเลยว่ากันไว้ก่อนดีกว่าแก้ แต่กว่าจะรู้ว่าทรุดก็ต้องมาแก้ไขซะแล้ว..
ครั้งก่อนเราได้เคยทำความรู้จักกับการเลือกใช้เสาเข็มก่อนจะสร้างบ้านหรือเลือกซื้อบ้านกันไปแล้วกับบทความ บ้านทรุดหรือไม่? ขึ้นอยู่กับเสาเข็ม วันนี้เราจะมาแนะนำ ” วิธีการแก้ปัญหา” เมื่อบ้านเกิดการทรุดตัวให้เจ้าของบ้านได้เตรียมตัวแก้ไขกันได้ถูกต้อง ถูกวิธีขจัดปัญหาไม่ให้เกิดซ้ำได้อีกค่ะ โดยจะเริ่มจากหัวข้อต่างๆ ดังนี้
บ้านทรุดเกิดจากอะไร
สาเหตุที่ทำให้เกิดการทรุดตัวคืออะไร
ปัญหาที่ตามมาจากการทรุดตัวของบ้าน
วิธีการแก้ไขพร้อมงบประมาณที่ต้องเตรียม
บ้านทรุดคืออะไร
“บ้านทรุด” คือการที่พื้นดินบริเวณรอบๆบ้านเกิดการทรุดตัวตามระยะเวลาจนเกิดเป็นโพรงใต้คานคอดิน หรือการที่ฐานรากของตัวบ้านทรุดตัวจากหลายสาเหตุทำให้ตัวบ้านเกิดรอยแตกร้าว ในกรณีส่วนต่อเติมของบ้านที่ฝากอยู่ตัวบ้านการทรุดตัวจะทำให้ผนังแยกออกมาจากบ้านหลัก หรือบางหลังที่มีการฝากส่วนต่อเติมเข้ากับโครงสร้างบ้านหลัง อาจเกิดการรั้งตัวบ้านทำให้โครงสร้างของบ้านหลักเกิดความเสียหายเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยได้ค่ะ
สาเหตุการทรุดตัวของบ้าน
บ้านทรุดนั้นเป็นปัญหาที่หลายบ้านต้องเคยพบเจอ ซึ่งมีสาเหตุการทรุดที่แตกต่างกันออกไปค่ะ แต่ละสาเหตุนั้นก็มีวิธีการแก้ไขไม่เหมือนกัน ดังนั้น เราควรมั่นใจว่าบ้านเรานั้นทรุดด้วยสาเหตุอะไรเพื่อที่จะดำเนินการแก้ไขให้ถูกจุดค่ะ
สาเหตุจากการก่อสร้างบนดินที่ยังไม่เซ็ตตัว
หลายคนรีบซื้อบ้านที่ก่อสร้างใหม่ๆบนดินยังไม่เซ็ตตัว หรือซื้อบ้านในโครงการที่เคยเป็นพื้นที่หนองน้ำ หรือพื้นนามาก่อน ทำให้ดินบริเวณนั้นมีความอ่อนตัวมากกว่าปกติ บางโครงการรีบถมดินแล้วทำการก่อสร้างเลยทำให้ดินบริเวณนั้นเกิดการทรุดตัวได้ง่ายกว่าปกติค่ะ ซึ่งวิธีการสังเกตดินว่าเป็นดินอ่อนหรือไม่ให้สังเกตจากสภาพแวดล้อมรอบๆ ว่าเป็นพื้นที่นา หรือหนองน้ำหรือไม่ ถ้ารอบๆทั้งหมดเป็นหนองน้ำ ก็มีความเป็นไปได้สูงมากๆที่ที่ดินของเราจะเป็นดินถมใหม่ มีความเสี่ยงทรุดตัวสูงค่ะ
ถ้าไม่สามารถสังเกตที่ดินรอบๆได้ให้สังเกตพันธุ์ไม้ที่ขึ้นบริเวณนั้นค่ะว่าเป็นชนิดไหน ต้นกก ต้นอ้อ ต้นพลับพลึง จะขึ้นบริเวณที่มีความชื้นและแหล่งน้ำแสดงว่าดินบริเวณนั้นเป็นดินอ่อน แต่ถ้ามีต้นกระถิน หรือต้นมะขามเทศ จะขึ้นบริเวณดินแห้งซึ่งจะมีความแข็งมากกว่าค่ะ
*Tips : ดินควรถมทิ้งไว้เป็นระยะเวลามากกว่า 6 เดือนจนถึง 1 ปี ถ้ามีการบดอัดดินด้วยจะทำให้ดินมีความแข็งเซ็ตตัวมากขึ้น ช่วยลดการทรุดตัวของบ้านในระยะยาว
สาเหตุจากการไม่ได้ลงเสาเข็ม หรือเสาเข็มสั้นเกินไป
บ้านบางโครงการหรือบ้านสร้างเองที่ไม่ได้ลงเสาเข็มบริเวณพื้นลานจอดรถ หรือพื้นบริเวณลานซักล้างด้านหลังบ้าน ใช้วิธีการก่อสร้างแบบเทคอนกรีตลงบนดิน (On Ground) ร้อยทั้งร้อยจะเกิดการทรุดตัวเกิดขึ้น ถ้าไม่ได้เว้นระยะห่างกับโครงการสร้างของตัวบ้านไว้ จะเกิดรอยแตกร้าวและยุบตัวลงบริเวณจุดเชื่อมต่อตลอดทั้งแนวค่ะ
ในบางกรณีผู้รับเหมาบ้างเจ้าอาจให้คำปรึกษาว่าเสาเข็มสั้น 6 เมตรลงเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-6 ต้นก็สามารถใช้แทนเสาเข็มยาวได้ ซึ่งในความเป็นจริงจะต้องดูชนิดของดินเป็นหลักค่ะ ถ้าเป็นพื้นที่ของกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่จะเป็นดินอ่อน การลงเสาเข็มสั้นจะช่วยเพียงชะลอการทรุดตัวให้น้อยลงเท่านั้นค่ะ ผ่านไป 5-10 ปีจะเห็นร่องรอยการทรุดเกิดขึ้นอยู่ดี นอกจากจะอยู่บนพื้นที่ดินแข็งเช่น ภูมิภาคอีสาน หรือภาคเหนือ ก็จะสามารถลงเสาเข็มสั้นได้ค่ะ
สาเหตุจากเสาเข็มมีการแตกหัก หรือเสาเข็มอยู่บนดินที่แตกต่างกัน
บ้านในบางพื้นที่อาจตั้งอยู่บนดินที่ต่างชนิดกัน ซึ่งถ้าบ้านของเรามีการลงเสาเข็มที่เท่ากันโดยไม่ได้เจาะสำรวจดินมาก่อน (SOIL BORING TEST) อาจทำให้เกิดการทรุดตัวที่ไม่เท่ากันในแต่ละจุดจนเกิดรอยร้าวภายในตัวบ้านได้
ในกรณีที่ใช้เสาเข็มยาว และเจาะสำรวจดินก่อนการก่อสร้างทั้งหมดแล้วแต่ยังเกิดการทรุดตัวอยู่อาจเกิดจากกรรมวิธีการก่อสร้างที่ทำให้เสาเข็มหัก และสูญเสียความสามารถในการรับน้ำหนักไป ซึ่งเราจะไม่สามารถมองเห็นได้เลยค่ะเพราะมักจะเกิดการหักที่ด้านล่างในชั้นดิน ซึ่งกว่าจะรู้ตัวก็จะเห็นรอบแตกที่ฐานรากหรือตอม่อของตัวบ้านแล้ว
*Tips : Soil Boring Test คือ การเจาะสำรวจชั้นดิน เพื่อให้วิศวกรทำการวิเคราะห์เลือกใช้โครงสร้างให้เหมาะสม บ้านพักอาศัยทั่วไป (พื้นที่ไม่เกิน 500 ตารางเมตร) เจาะเพียงแค่หลุมเดียวก็ได้ค่ะ ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับการเจาะจะตกประมาณ 15,000 บาท/หลุม
สาเหตุจากน้ำหนักอาคาร
บ้านที่เป็นอาคารแถวหรือทาวน์โฮมที่มีโครงสร้างเชื่อมติดกับบ้านหลังอื่นๆ เมื่อเพื่อนบ้านมีการก่อสร้างต่อเติมน้ำหนักอาคารในปริมาณมาก หรือเป็นบ้านเดี่ยวที่มีการต่อเติมโดยไม่ได้แยกโครงสร้างกับอาคารเดิม ส่วนต่อเติมใหม่ที่มีน้ำหนักมากอาจมาดึงรั้งโครงสร้างของบ้านหลักจนเกิดการทรุดตัวหรือแตกร้าวได้
สาเหตุจากการทรุดของดิน, ระดับน้ำใต้พื้นดินมีการเปลี่ยนแปลง และน้ำท่วม
บางพื้นที่ตั้งอยู่ในจุดที่มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน เวลาน้ำลดแล้วจะทำให้เกิดการชะหน้าดินหายไปทำให้ระดับดินลดลง ส่งผลให้เกิดหลุมโพรงใต้คานคอดินค่ะ แต่จะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของบ้าน เพราะโดยปกติแล้วเสาเข็มจะเป็นตัวรับน้ำหนักของตัวบ้าน แม้ว่าจะมีการขุดดิน หน้าดินลดลง หรือสูบน้ำใต้ดินเล็กน้อยจะไม่ได้ทำให้เกิดการทรุดตัวมากนักนะคะ
ในกรณีพื้นที่ดินข้างเคียงมีการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำอย่างมาก เช่น สูบน้ำออกจากบ่อขนาดใหญ่, มีการขุดคลองด้านข้าง หรือขุดดินออกเป็นปริมาณมากอาจจะทำให้พื้นที่ดินมีการทรุดตัวเกิดขึ้นได้ ถ้าเป็นสาเหตุนี้จะทำให้ส่งผลกระทบกับโครงสร้างบ้านรากของบ้านได้ค่ะ